แนวทางการสังเกตอาการต่างๆ ของบ้านที่บ่งบอกถึงปัญหาหลังคารั่วในแต่ละระดับ เพื่อจะได้รีบดำเนินการแก้ไขก่อนจะบานปลาย
หลังคา ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญหนึ่งของบ้าน นอกจากจะช่วยปกป้องพื้นที่ภายในจากสภาพอากาศแล้ว ยังเสมือนเป็นหน้าตาของบ้านอีกด้วย แต่เมื่อผ่านไปนานหลายปี หลังคาย่อมเสื่อมอายุการใช้งานไปตามกาลเวลา อีกทั้งปัญหาที่เกิดจากการก่อสร้างไม่มีคุณภาพ วัสดุที่ใช้ไม่มีมาตรฐาน ย่อมทำให้หลังคาเกิดปัญหารั่วซึม เก่า และเสื่อมโทรมได้ง่ายขึ้น ผู้พักอาศัยควรตรวจเช็คหลังคาบ้านของตัวเองให้ดี และเมื่อพบปัญหาควรรีบซ่อมแซมทันที หากนิ่งนอนใจคิดว่ายังชำรุดเพียงเล็กน้อยคงไม่เป็นไร ในท้ายที่สุดแล้วมันอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ หลังคาบ้านของคุณจะชำรุดหนักมากขึ้น ส่งผลให้พื้นที่ส่วนอื่นๆ ภายในบ้านเสียหาย และยากที่จะซ่อมแซม อีกทั้งอาจทำให้เสียค่าซ่อมแซมจากหลักพันพุ่งไปถึงหลักแสนบาทเลยก็เป็นได้
หลังคารั่วเกิดจากอะไร
วิธีตรวจเช็คอาการเบื้องต้น หลังคาบ้านของคุณป่วย (รั่ว) ระยะไหน?
ระยะที่ 1 เริ่มป่วย
อาการ: สิ่งที่บ่งบอกอาการในระยะนี้ คือเสียง คุณอาจได้ยินเสียงน้ำไหล หรือเสียงน้ำหยดกระทบกับฝ้าตอนฝนตก โดยอาจพบคราบน้ำสีน้ำตาลบนฝ้าเล็กน้อย เนื่องจากฝ้าจะดูดซับน้ำที่ไหลซึมลงมา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาในการดูดซับนานผ่านฝนมาหลายครั้งถึงจะปรากฏคราบให้เห็น แม้จะเห็นคราบเพียงเล็กน้อย แต่สามารถเดาอาการได้ว่าหลังคาจุดนั้นรั่วซึมมาแล้วหลายเดือน แต่ถ้าได้ยินแค่เสียงแต่ไม่มีคราบ แสดงว่าหลังคาเพิ่งรั่ว ควรรีบซ่อมแซมทันที เพราะหากละเลยจะทำให้ฝ้าเพดานบวม เสียรูปทรงและเกิดการทะลุได้ เนื่องจากฝ้าเพดานส่วนใหญ่ทำมาจากยิปซั่ม และหากมีของเฟอร์นิเจอร์ในห้องที่ทำมาจากไม้ เช่น ตู้เสื้อผ้า โต๊ะ เตียง หรือแม้กระทั่งพื้นไม้ ก็อาจจะทำให้เฟอร์นิเจอร์เหล่านั้นบวมน้ำ ผิดรูป และเกิดเชื้อราได้
วิธีการรักษา: ถ้ารู้ตัวในระยะนี้ถือว่ายังโชคดีที่ทรัพย์สินภายในบ้านไม่เสียหายจากน้ำรั่วซึม ดังนั้นควรรีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อสำรวจและซ่อมแซมหลังคาจุดที่รั่วซึม โดยอาจมีการเปลี่ยนวัสดุอุปกรณ์ที่ชำรุดเสียหาย จากนั้นใช้สีทาปิดทับบริเวณรอยคราบน้ำก็เป็นอันเสร็จสิ้น
ระยะที่ 2 ป่วยลุกลาม
อาการ: ระยะนี้สามารถสังเกตเห็นรอยคราบน้ำบนฝ้าเพดานได้ชัดเจน เนื่องจากมีน้ำหยดหรือรั่วซึมลงมาเวลาฝนตกแล้วฝ้าเพดานซับน้ำไม่อยู่ ยิ่งคราบน้ำสีเข้มมากเท่าไรแสดงว่าฝ้าซับน้ำไว้เยอะ เป็นไปได้ว่าฝ้าใกล้ทะลุแล้ว และอาจลุกลามไปยังจุดอื่นๆ ใกล้เคียง บ่งบอกอาการได้ว่าหลังคาอาจรั่วซึมมาระยะยาวเป็นปีๆ สำหรับบ้านไหนไม่เห็นคราบน้ำแต่พบว่าเฟอร์นิเจอร์บวม มีกลิ่นอับชื้น และเชื้อราขึ้น เป็นไปได้ว่าหลังคาอาจรั่วซึมในจุดที่ตั้งของเฟอร์นิเจอร์นั้น หรือบางบ้านอาจพบว่าไฟบางดวงเปิดไม่ติด อาจเป็นเพราะมีน้ำไปโดนบริเวณหลอดไฟและเกิดการลัดวงจรทำให้ไฟดับ หากละเลยฝ้าเพดานอาจทะลุและมีน้ำไหลซึมผ่านเข้ามาในบ้าน ทำให้เฟอร์นิเจอร์ไม้ พื้นและอุปกรณ์ต่าง ๆ เกิดความเสียหาย นอกจากจะต้องเสียเงินซ่อมแซมหลังคาแล้ว ยังต้องเสียเงินค่าซ่อมแซมของใช้ต่างๆ ภายในบ้านอีกด้วย
วิธีการรักษา: เวลาฝนตกสามารถแก้ไขสถานการณ์เฉพาะหน้าได้โดยใช้ภาชนะหรือแผ่นยางเพื่อรองรับน้ำ แต่ทั้งนี้ควรรีบแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างอย่างเร่งด่วน โดยรีบติดต่อช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อสำรวจและซ่อมแซมหลังคาจุดที่รั่วซึมทันที และควรเลือกช่างที่มีความสามารถและประสบการณ์ ซ่อมครั้งเดียวอยู่ ถ้าซ่อมไม่ดีอาจเกิดปัญหารั่วซึมอีกได้
ระยะที่ 3 ป่วยระยะสุดท้าย
อาการ: ระยะนี้ถือว่าสาหัสที่สุด ฝ้าเพดานอาจทะลุจนเป็นโพรง มีรอยคราบน้ำสีน้ำตาลเข้มชัดเจนในหลายจุด และไหลลงมาตามผนัง แสดงถึงปัญหารั่วสะสมมาหลายปี เวลาฝนตกจะเกิดน้ำไหลนองไปทั่วบริเวณบ้าน อาจมีสิ่งสกปรกปนมากับน้ำฝน และมีสัตว์ เช่น หนู งู นก กระรอก แอบอาศัยอยู่บริเวณใต้หลังคา
วิธีการรักษา: แก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการปิดรูที่รั่วไว้ก่อนเมื่อฝนตก โดยใช้ผ้าใบปิดหรือแผ่นยางอุด เตรียมภาชนะรองรับน้ำ และใช้ผ้าซับน้ำที่รั่วซึมลงมา จากนั้นรีบหาช่างมาซ่อมหลังคาและเปลี่ยนฝ้าเพดานโดยด่วน บางกรณีหากเสียหายหนักหลายจุด ต้องเปลี่ยนกระเบื้องหลังคา และอุปกรณ์อื่นๆ ที่ชำรุดด้วย หากละเลยทรัพย์สินภายในบ้านจะได้รับความเสียหาย ยิ่งฝนตกหนักอีกน้ำอาจท่วมขังภายในบ้าน พื้นบวมเสียหาย นอกจากจะต้องซ่อมหลังคาแล้วยังต้องรื้อพื้นปูใหม่ทั้งหมด เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายที่สูงมาก บางกรณีพบหลังคารั่วบนตู้เฟอร์นิเจอร์ที่ทำจากไม้ ทำให้ตู้เหม็นอับชื้น จนเห็ดราขึ้นตู้ ทำให้ต้องโละตู้ทิ้งและซื้อใหม่ หรือบางบ้านหลังคารั่วเป็นรูและปล่อยทิ้งไว้เช่นนั้น เพราะคิดว่าไม่เป็นปัญหาอะไร กระทั่งพบงูเลื้อยมารูที่รั่ว สร้างความตื่นตระหนกให้ผู้อยู่อาศัยอย่างมาก
หลังคารั่วทำให้เกิดปัญหาตามมามากมายกว่าที่คิด แม้ในระยะแรกเริ่มหลายคนอาจมองว่ายังไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตมากนัก แต่เมื่อปล่อยทิ้งไว้ อาจกลายเป็นปัญหาระยะลุกลาม และอาจสาหัสถึงขั้นระยะสุดท้ายได้ ซึ่งซ่อมแซมได้ยาก อาจต้องเปลี่ยนหลังคาใหม่และอุปกรณ์อื่นๆ ยกชุด ยิ่งปล่อยทิ้งไว้นานยิ่งทำให้ฝ้าเพดานบวม และทะลุเป็นรู อาจส่งผลกระทบถึงผนัง พื้น รวมถึงเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ ภายในบ้านได้รับความเสียหาย เสียค่าใช้จ่ายสูงและยังเสียเวลาอีกด้วย ดังนั้นไม่ควรละเลยอย่างยิ่ง เมื่อพบปัญหาในระยะแรกเริ่มควรรีบแก้ไขทันที จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและเวลาได้มาก
การเลือกวัสดุ อุปกรณ์และช่างที่จะมาซ่อมแซมหลังคาของบ้านนั้นก็เป็นเรื่องที่สำคัญ หากเลือกแบบอะไรก็ได้ อาจไม่ได้คุณภาพที่ดี ซ่อมแซมไปก็ไม่หายขาด อาจต้องเสียเงินและเวลาซ้ำซ้อน หนึ่งในทางเลือกสำหรับการแก้ปัญหานี้ คือการเลือกใช้บริการจากผู้เชี่ยวชาญ ที่น่าเชื่อถือและไว้วางใจได้อย่าง SCG ซึ่งมีบริการ SCG Roof Renovation สำหรับซ่อมแซมหลังคาบ้านโดยเฉพาะไม่ให้กลับมารั่วซ้ำซาก รวมถึงบริการเปลี่ยนหลังคาทั้งผืน โดย SCG จะมีช่างผู้เชี่ยวชาญเข้าไปสำรวจความเสียหายของหลังคาที่หน้างาน หลังจากนั้นจะประเมินค่าใช้จ่ายให้ลูกค้าอย่างแม่นยำ ช่วยลดปัญหางบบานปลายระหว่างการปรับปรุง โดยทีมช่างจาก SCG จะวางแผนการทำงานในแต่ละวัน ปรับปรุงเป็นส่วนๆ และมีการป้องกันส่วนต่างๆของตัวบ้านไม่ให้รับผลกระทบจากการซ่อมแซม ผู้พักอาศัยสามารถใช้ชีวิตในบ้านได้ตามปกติ และในแต่ละวันจะมีการสรุปผลการทำงานอัพเดตให้ทราบความคืบหน้าอีกด้วย เรียกได้ว่าคุณภาพคุ้มค่า คุ้มราคา ซ่อมให้หายขาดในครั้งเดียว หมดปัญหาหลังคารั่วซ้ำซาก ทำให้หลังคาบ้านของคุณกลับมามีสภาพที่ดีพร้อมปกป้องทุกคนในบ้านได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ